วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ดิจิตอลคอมนำเสนอโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร พร้อมเปิดตัวกล้อง DIVIO กล้องไอพีคาเมร่า จากอเมริกา ในงาน Secutech Thailand 2013

ดิจิตอลคอมนำเสนอโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร พร้อมเปิดตัวกล้อง DIVIO กล้องไอพีคาเมร่า จากอเมริกา ในงาน Secutech Thailand 2013






                 เมื่อวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา บริษัทดิจิตอลคอม จำกัด ผู้นำเข้าเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัย ระบบการสื่อสารผ่านเน็ตเวิร์ค และระบบ IT Infrastructure นำทีมโดย คุณสุวิช จิตรเกษมสุข กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยพนักงานบริษัทฯได้ร่วมออกบูธในงาน “Secutech Thailand 2013” งานมหกรรมรักษาความปลอดภัยครั้งยิ่งใหญ่ที่รวบรวมผู้นำทางด้านระบบรักษาความปลอดภัยจากทั่วโลกมาร่วมแสดงเทคโนโลยีใหม่ๆ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติกรุงเทพ (Bangkok International Trade and Exhibition Centre, Bangkok, Thailand)


ซึ่งภายในงานได้มีการโชว์โซลูชั่นต่างๆมากมายอาทิ เช่น โซลูชั่นของซอฟต์แวร์ Milestone ผลิตภัณฑ์จากประเทศเดนมาร์ก ด้วยนิยามที่ว่า “Open Platform” ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์บริหารจัดการและบันทึกภาพที่สามารถรองรับกล้องได้มากกว่า 100 ยี่ห้อทั่วโลก และสามารถอินทิเกรทได้กับระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆได้อย่างหลากหลาย
พร้อมทั้งเปิดตัวกล้องวงจรปิดแบบไอพี จากประเทศอเมริกายี่ห้อ DIVIO ซึ่งเป็นกล้องไอพีที่นำเข้ามาเพื่อรองรับตลาดกลุ่ม Retail หรือกลุ่มลูกค้าที่เดิมเป็นระบบ Analog และต้องการเปลี่ยนมาเป็นระบบ IP ซึ่งมาพร้อมกับความคมชัดระดับ Full HD (1920x1080P) และความสามารถในการมองภาพย้อนแสงแบบ True WDR (Double Scan) ทำให้ความต่อเนื่องของภาพสูงถึง 60 ภาพต่อวินาที ที่ความชัด Full HD (1080P @60FPS) และเทคโนโลยีเฉพาะ Lighting Solver ที่ช่วยแก้ไขปัญหาของภาพในทุกสภาวะแสง
และอีกหนึ่งโซลูชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจเรียกผู้ชมเข้าชมบูธได้อย่างคับคลั่งคือ ซอฟต์แวร์ Gelement จากประเทศสิงคโปร์ เป็นซอฟต์แวร์ระบบจัดการอาคารหรือสถานที่และแผนผังเมืองแบบสามมิติ ที่ครอบคลุมการรับรู้สถานการณ์จริงให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งเรียกซอฟต์แวร์ตัวนี้ว่า “NUCLEUS ” (Unified Management System for Smart Buildings and Cities) ถือเป็นระบบจัดการในการควบคุมที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในศูนย์ดำเนินงานและศูนย์บัญชาการที่มีการใช้งานหน้าจอขนาดใหญ่เพื่อดูความเคลื่อนไหวต่างๆของบุคคลหรือแผนผังควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆในตัวอาคารหรือสถานที่ควบคุมที่กำหนดไว้ในระบบ
และอีกหนึ่งโซลูชั่นที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ ระบบวิเคราะห์ภาพ (Video Content Analytic) ของ AGENT VI จากประเทศอิสราเอล ที่นำมาอินทิเกรททำงานร่วมกับ iOmniscient Video Contact Analysis เพื่อให้ได้ระบบรักษาความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบ ซึ่ง AGENT VI จะเป็นระบบวิเคราะห์ภาพที่นำภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิดมาวิเคราะห์ประมวลผลตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้และในส่วนของ iOmniscient จะมีไว้ตรวจจับใบหน้าบุคคลต้องสงสัยหรือผู้ร้ายที่มีรูปถ่ายหรือข้อมูลอยู่ในระบบ ซึ่งเมื่อซอฟต์แวร์สองตัวนี้ทำงานร่วมกันก็จะทำให้เพิ่มความสามารถให้กับการเฝ้าระวังเหตุการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้นและช่วยแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นไปยังผู้ดูแลระบบผ่าน E-mail หรือ SMS ทำให้สามารถตัดสินใจจัดการรับมือกับสถานการณ์ได้ทันท่วงที
และที่ขาดไม่ได้เลยอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของ Promise จากประเทศอเมริกา ซึ่งเป็น Storage ที่มีไว้สำหรับจัดเก็บข้อมูล เพื่อจะเพิ่มความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลให้มากยิ่งขึ้น และยังมีโซลูชั่นของระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจรจาก Honeywell ซึ่งเป็นระบบ Access control การควบคุมการเข้าออกของประตู สามารถอินทิเกรทและทำงานร่วมกับระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆได้แบบอัตโนมัติ อย่างเช่น ทำงานร่วมกับระบบกล้องวงจรปิด และระบบป้องกันการบุกรุกหรือสัญญาณกันขโมย เป็นต้น
และสุดท้ายโซลูชั่นของ Digital Signage ยี่ห้อ Onelan จากประเทศอังกฤษที่มีความสามารถไม่ได้จำกัดอยู่แค่จอโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์เท่านั้นแต่ยังสามารถอินทิเกรทร่วมกับระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆได้อีกด้วย อย่างเช่น การแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินให้แสดงภาพทางหนีไฟหรือแจ้งเตือนภัยในรูปแบบต่างๆเป็นต้น
นับได้ว่าดิจิตอลคอม ได้คัดสรรค์ผลิตภัณฑ์ดีๆจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อมาเติมเต็มโซลูชั่นของระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างครบถ้วน ซึ่งภายในงานต่างมีผู้เยี่ยมชมบูธและให้ความสนใจในโซลูชั่นต่างๆ อย่างล้นหลามทั้งจากบุคคลภายนอกที่สนใจในเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัย และผู้ร่วมออกบูธอื่นๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของดิจิตอลคอมในการเป็น Distributor สู่ระดับสากลได้อย่างดีเยี่ย








ที่มา : http://www.ryt9.com/s/prg/1696280 

วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

4G คิออะไร

4G คิออะไร


สิ่งที่น่าสนใจที่จะพัฒนาเทคโนโลยี 4G ก็เป็นผลมาจากจุดอ่อนของระบบ 3G นั่นเอง โดยที่ผู้ประกอบการธุรกิจโทรคมนาคมทั่วโลกได้ลงทุนเป็นจำนวนเงินสูงถึงหนึ่งแสนล้านดอลล่าร์ เพื่อซื้อใบอนุญาตใช้สิทธิในการประกอบการโทรคมนาคมเครือข่าย 3G เพียงเพื่อให้ได้เทคโนโลยีที่สามารถสื่อสารแบบมัลติมีเดียแบบเคลื่อนที่ได้ แต่การนำมาใช้จริงกลับกลายเป็นทำได้ยากกว่าที่คาดไว้ และยังมีการลงทุนทางด้านเครือข่ายและการบำรุงรักษาเครือข่ายที่สูง จึงสร้างความไม่มั่นใจให้กับผู้ประกอบกิจการที่กำลังจะพัฒนาระบบจาก 2.5G สู่ 3G โดยสรุปแล้วแรงจูงใจในการพัฒนาเทคโนโลยี 4G มีดังนี้ คือ ความสามารถในการทำงานของ 3G อาจจะไม่เพียงพอที่จะสนองตอบความต้องการของแอพพลิเคชั่นสูงๆ อย่างเช่น มัลติมีเดีย, วิดีโอแบบภาพเคลื่อนไหวที่เต็มรูปแบบ (Full-motion video) หรือการประชุมทางโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless teleconferencing) ทำให้เกิดความต้องการเทคโนโลยีเครือข่ายที่จะมาช่วยเพิ่มขีดความสามารถของ 3G โดยจะต้องเป็นเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่มากด้วย มาตรฐานที่ซับซ้อนของ 3G ทำให้ยากในการเชื่อมโยงและทำงานร่วมกันระหว่างเครือข่าย แต่เราต้องการใช้งานแบบเคลื่อนที่และพกพาไปได้ทั่วโลก นักวิจัยต้องการให้รูปแบบการส่งคลื่นทางเทคนิคมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อ เพิ่มขีดความสามารถในการส่งข้อมูลที่เร็วกว่า 10 Mbps ซึ่งไม่สามารถทำได้ในโครงสร้างของ 3G ระบบ 4G เป็นระบบเครือข่ายแบบ IP digital packet ทำให้สามารถส่ง Voice และ Data ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้วยราคาการให้บริการที่ถูกมากและมีรูปแบบที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น การพัฒนาระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุค 4G ได้มีการพัฒนาโดยเน้นเรื่องการรักษาความปลอดภัย โดยการนำไบโอแมทริกซ์มาผสมผสาน ทำให้สามารถซื้อขายกันได้โดยผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือ Mobile Internet และยังสามารถหักบัญชีเงินในธนาคาร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับสินค้าหรือบริการได้ทันที ระบบไบโอแมทริกซ์ จึงเข้ามามีบทบาทอย่างมากในธุรกิจในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะเห็นอย่างชัดเจนในยุคโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G นั่นคือในธุรกิจ Mobile Commerce นั่นเอง ซอฟแวร์ที่เกี่ยวกับสื่อมัลติมีเดีย นับเป็นกลุ่มซอฟแวร์ที่จะถูกนำมาใช้ร่วมกับระบบ 4G โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลถูกพัฒนาให้สูงกว่า 100 เมกะบิตต่อวินาที ตัวอย่างเช่น คุณอาจดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอมาไว้ในรถยนต์ ก่อนออกเดินทางไกล เพื่อว่าจะได้มีหนังดีๆ รวมทั้งข้อมูลการท่องเที่ยวไว้ดูบ้างในระหว่างเดินทาง นั่นคือธุรกิจ Software house และ ธุรกิจเกี่ยวกับการสร้าง Content ในระดับ SME ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ก็จะมีโอกาสในธุรกิจสื่อมัลติมีเดียบนอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่เป็นอย่างมาก ลองนึกภาพการที่คุณสามารถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อซื้อน้ำอัดลมจากตู้ขายอัตโนมัติ ใช้โทรศัพท์เครื่องเดียวกันสั่งซื้ออัลบั้มเพลงล่าสุดและดาวน์โหลลงเครื่องเล่น MP3 ได้โดยตรง หรือการที่นักท่องเที่ยวสามารถใช้คอมพิวเตอร์พกพาเพื่อหาจองโรงแรมที่ใกล้ที่สุด และราคาเหมาะสมที่สุดขณะที่นั่งรถแท็กซี่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ในยุค 4G จะมีความสามารถและสมรรถนะสูงมาก ในระดับที่สามารถชมภาพวิดีโอกันแบบสดๆได้ พร้อมคุณภาพระดับ DVD ตามการเปิดเผยของซัมซุงฯ เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ ทางซัมซุงฯได้เพิ่มบุคลากรในแผนกอาร์แอนด์ดี ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบ 4G แล้ว มีการคาดหวังถึงความสะดวกสบายและประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับเมื่อบริการ M-Commerce บนระบบ 4G จะเป็นที่ยอมรับและแพร่หลาย ทำให้เกิดแนวคิดมากมายในการทำ M-Commerce เข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด เช่นแนวคิดเกี่ยวกับการกระจายข้อมูลออกไปในระยะใกล้ โดยมีเป้าหมายคือผู้บริโภคที่อยู่ในบริเวณนั้นๆ ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเดินผ่านร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ คุณอาจจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ๆ ที่มีจำหน่ายในร้าน และคุณก็สามารถที่จะตรวจสอบราคาสินค้า เปรียบเทียบราคากับร้านอื่นๆ เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกที่สุด หรือเมื่อคุณนั่งรถไฟฟ้าผ่านสถานที่ท่องเที่ยวโทรศัพท์เคลื่อนที่4G ของคุณก็จะได้รับแผนที่อิเล็กทรอนิกส์ของบริเวณนั้นบนจอของคุณ อีกทั้งข้อความโฆษณาของโรงแรมหรือที่พักที่อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ เป็นต้น ขณะนี้ประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี จับมือกันแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีหวังสร้างมาตรฐานร่วม 4G แห่งเอเชีย โดยชูคุณสมบัติเด่น รับส่งข้อมูล 100 เมกะบิตต่อวินาที พร้อมเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโปรโตคอล เวอร์ชั่น 6 หรือ “ไอพีวี6” (IPv 6) ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้พัฒนาขี้นเป็นรายแรก และมีแผนที่จะผลักดันให้กลายเป็นมาตรฐานระดับโลก จะเห็นได้ว่าตอนนี้เหล่าผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และนักพัฒนาเริ่มตื่นตัวกับเทคโนโลยีใหม่กันแล้ว และดูเหมือนการแข่งขันที่เกิดขึ้นจะรุนแรงกว่า 3G มาก จนทำให้การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ครั้งนี้ อาจจะไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปอีกแล้ว แต่น่าจะเป็นลักษณะการเคลื่อนไหวแบบก้าวกระโดด จนธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมอาจปรับตัวไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลง